ดอกหน้าวัว
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ลำต้น
หน้าวัวเป็นไม้อายุหลายปี
อวบน้ำลำต้นตรง โดยจะมีการแตกหน่อเลื้อยมีการเจริญยอดเดียว เมื่อยอดเจริญสูงขึ้นอาจพบรากบริเวณลำต้น
โดยจะแตกเมือมีความชื้นเพียงพอ
เนื่องจากเป็นพืชระบบรากอากาศสามารถดูดน้ำและความชื้นจากอากาศได้ดี
ช่อดอก
ส่วนช่อดอกของ หน้าวัวหรือที่เรียกว่า
ปลี คือ ส่วนที่เป็นดอกจริง ซึ่งประกอบด้วย ก้านช่อ
ซึ่งมีดอกย่อยเล็กเรียงอัดแน่นอยู่บนปลี ดอกย่อยนี้เป็นดอกสมบูรณ์เพศ
ที่มีทั้งเกสรตัวผู้และเกสรตัวเมีย อยู่ในดอกเดียวกัน
ดอกที่อยู่บนก้านดอกนี้จะมีสีต่างๆหลายสี
เมื่อจานรองดอกคลี่ปลีออกจะมีสีเหลืองอ่อน
หรือสีปนแดง ตามสายพันธุ์ ดอกที่อยู่โคนปลีจะเปลี่ยนเป็นสีขาว ไล่ไปปลายปลี
แสดงว่า ดอกบาน และเมื่อตุ่มยอดเกสรตัวเมียเริ่มมีน้ำเหนียว ๆ
แสดงว่าดอกนั้นพร้อมที่จะผสมเกสรตัวผู้จะบานภายหลังเกสรตัวเมีย
ดังนั้นหน้าวัวส่วนใหญ่มักจะไม่ค่อยมีโอกาสผสมตัวเอง ยกเว้นบางสายพันธุ์ นอกจาก
นี้เกสรตัวผู้ของหน้าวัวลูกผสมส่วนใหญ่ จะมีเกสรตัวผู้ฟุ้งเมื่ออุณหภูมิเย็น
โดยมากมักจะผสมในช่วงฤดูหนาว
การแบ่งพันธุ์
พันธุ์ของหน้าวัวมี 2 สายพันธุ์
- สายพันธุ์ ประเภท Anthurium andraeanum แบ่งได้เป็น
4 สีดังนี้
- จานรองดอกสีแดง สายพันธุ์ที่พบ ดวงสมร
กรุงธน นครธน กษัตริ์ศึกธนบุรี บางกล จอมพล กรุงเทพฯ แดงนุกูล ดาราไทย
- จานรองดอกสีส้ม สายพันธุ์ที่พบ
พันธุ์ผกามาศ ผกาทอง ตราทอง สุหรานากง โพธิ์ทอง
- จานรองดอกสีชมพู สายพันธุ์ที่พบ
พันธุ์ศรีสง่า ศรียาตรา จักรเพชร
- จานรองดอกสีขาว สายพันธุ์ที่พบ
พันธุ์ขาวนายหวาน ขาวพระสังขศาสตร์ ขาวคุณหนู
- Anthurium schzerianum สายพันธุ์นี้มีจานรองดอกสีแตกต่างกัน
ไม่นิยมปลูกเลี้ยงในเมืองไทย เพราะต้องการความเย็นและความชื้นสูงโดยความโดดเด้นของพันธุ์นี้ปลีงอ
หรือเป็นเกลียวปลูกเป็นไม้ตัดดอก และไม้กระถาง
ความนิยม
สหรัฐอเมริกา
นิยมใช้หน้าวัวพันธุ์สีแดงและสีแดงอ่อนมาก โดยคิดเป็น 80% ส่วนอีก 20% เป็นสีชมพู
และสีขาว
ในทางฝรั่งเศสและสวิสเซอร์แลนด์
นิยมสีแดงและสีส้ม
การปลูก
สามารถปลูกลงในกระถางที่มีการรองพื้นด้วย
เครื่องปลูกที่โปร่ง เช่น กาบมะพร้าว ได้ หรือจะไปปลูกบนต้นไม้
ก้อนหินก็ได้เช่นกัน
โดยวิธีการที่นิยมมีดังนี้
1.
การตัดยอด
ทำได้เมือ ต้นสูงขึ้นจากระดับเครื่องปลูกและมีราก 2-3 ราก นำไปปลูกลงในกระถางใหม่โดยใส่ยาเร่งรากเพื่อให้แตก
2.
การแยกหน่อ
หน้าวัวบางพันธุ์มีหน่อมาก เช่น พันธุ์ดาราทอง โดยสามารถแยกหน่อลงไปปลูกได้เลยเพราะมีการแตกรากที่สมบุรณ์แล้ว
3.
การตัดต้นชำ
ทำการตัดชำ แล้วนำท่อนพันธุ์ไปใช้ชำในทรายหรืออิฐทุบก้อนเล็ก ๆ ที่ขึ้นอยู่เสมอ
จะเกิดต้นใหม่ขึ้นมาตามข้อหรือปล้องนั้น เมื่อต้นมีรากก็แยกไปปลูก
4.
การขยายพันธุ์โดยการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ
เป็นวิธีการที่ผลิตหน้าวัวได้เป็นจำนวนมาก แต่มีปัญหาในการทำความสะอาดเนื้อเนื้อ
เพราะหน้าวัวเป็นพืชที่ชอบความชื้น
ฉะนั้นจึงทำให้มีทั้งเชื้อราและแบคทีเรียตามต้นพันธุ์มาก
เมื่อต้นอ่อนเจริญเติบโตในหลอดอาหารเพียงพอที่จะย้ายลงไปปลูกในกระถางได้นำไปเลี้ยงต่อในโรงเรือนที่ชื้นสม่ำเสมอ
โดยในะระยนี้ต้องมีเวลาในการดูแล เอาใจใส่มิฉะนั้นต้นจะตายง่ายโดยการขาดความชื้น
5.
การขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด
ใช้สำหรับการปรับปรุงพันธุ์เท่านั้น
เพื่อให้ได้พันธุ์ใหม่มีลักษณะดีกว่าพันธุ์เดิม โดยมีการผสมเกสรในช่วงฤดูหนาว
แต่มีโอกาสที่หน้าวัวจะติดเมล็ดเองมีน้อย เพราะเกสรตัวผู้และตัวเมียบานไม่พร้อมกัน
โดยมากเกสรตัวเมียบานแล้ว จึงมีละอองเกสรตัวผู้ จะบานไล่จากโคนปลี
ผู้ที่ทำการผสมจะต้องใช้ พู่กันหรือบนที่สามารรถนำ เกสรตัวผู้ไปผสมได้
หลังจากเมือผสมได้ ปลีจะเริ่มบวมเพราะได้รับการผสมแล้ว รอจนแก่ นำไปเพราะได้
ความหมายของ ดอกหน้าวัว
ถ้าจะให้เป็นดอกไม้แทนใจแล้วละก็ความหมายของดอกหน้าวัวนั้นก็อาจจะฟังดูเศร้าๆ
ไปหน่อย และความหมายแทนใจของเขาก็คือ “หญิงสาวผู้เหงาเศร้า
แต่หยิ่งและทรนงค์ในศักดิ์ศรีของตัวเอง” แต่ถ้าจะให้เป็นดอกไม้แทนความรักแล้วละก็มีความหมายที่ดีไม่แพ้ใครเลยซึ่งความหมายนั่นก็คือ
“ความรักที่มั่นคงและอดทน” แต่ถ้าใครจะใช้ดอกหน้าวัวแทนความหมายอะไรก็ใช้ให้ถูกนะค่ะ
และใครอยากจะนำดอกไม้ชนิดไปใช้ในการจัดดอกไม้ จัดซุ้มดอกไม้ ซุ้มงานแต่ง หรืออื่นๆ
ก็สามารถลองนำไปประยุกต์ใช้กันได้นะค่ะ และทางเราเองก็มีบริการในการนำดอกไม้ชนิดนี้มาใช้ในการ จัดดอกไม้งานแต่งงาน
http://www.youtube.com/watch?v=IWuiKCzupZw

.jpg)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น